ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายไทยไม่นิยมสวมถุงยางอนามัยนั่นก็คือ ความรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ บ้างก็รู้สึกว่าคับไป แน่นไป เกรงว่าน้องชายจะขาดอากาศหายใจ ซ้ำร้ายถุงยางอนามัยอาจแตกขึ้นมาได้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ หรือบางทีก็รู้สึกว่าหลวมไป ปฏิบัติภารกิจยังไม่ทันจะฟินเลย ก็ไม่รู้ว่าถุงยางหลุดไปอยู่ที่ไหนแล้ว ยุ่งล่ะสิครับทีนี้
เคยมีกรณีตัวอย่างมาปรึกษาครับว่า ภายหลังจากที่มีอะไรกันแล้วปรากฏว่าหาถุงยางอนามัยไม่เจอ ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ไหน วุ่นวายกันยกใหญ่ กลัวว่าจะหลุดเข้าไปอยู่ในท้อง เลยต้องพึงมือหมอสูติช่วยตรวจภายใน และแล้วก็พบว่าเจอถุงยางอนามัยค้างในช่องคลอด ปัญหาเช่นเกิดจากการเลือกขนาดถุงยางอนามัยที่ไม่เหมาะกับขนาดน้องชายของคุณผู้ชายเอง หรือบางทีตัวคุณผู้ชายบางคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนเลยก็ได้ว่า ถุงยางอนามัยเค้ามีขนาดให้เลือกใช้เหมือนกันนะครับ ไม่ได้มีขนาดเดียวอย่างที่เคยเข้าใจกัน ไม่ใช่ว่าไปถึงร้านแล้วก็รีบๆคว้ามาเพราะเขินอาย กลัวคนอื่นจะเห็น เลยไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดอื่นๆเลย อย่างนี้ไม่ควรนะครับ
นอกจากสี กลิ่น และผิวสัมผัสของถุงยางจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้คุณผู้ชายเลือกซื้อหาถุงยางมาใช้แล้ว ขนาดของถุงยางก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรใส่ใจด้วยเช่นกันนะครับ เพราะหากเลือกขนาดได้เหมาะสมกับน้องชายเราแล้วก็จะทำให้ถุงยางอนามัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความสุขทางเพศ อีกทั้งป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การใช้งานถุงยางอนามัยเต็มประสิทธิภาพสูงสุด คือ เลือกขนาดอย่างไร ใส่แบบไหนจะฟิตและฟิน ทั้งตัวเรา ทั้งคู่นอน
ถุงยางอนามัยจะมีขนาดข้างกล่องที่เขียนเป็นมิลลิเมตรเอาไว้ ขนาดทั่วไปคือ 49 มิลลิเมตรบ้าง...52 มิลลิเมตรบ้าง นี่คือความกว้างของถุงยางเวลาวางแบนกับพื้นนั่นเองครับ
#วิธีการวัด คือ ขณะตอนอวัยวะเพศแข็งตัว (แข็งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้) ใช้เส้นด้ายหรือสายวัด (ขออะไรที่ปลอดภัย ไม่บาด) เพื่อวัดเส้นรอบวง แล้วหารด้วย 2 ก็จะได้ขนาดถุงยางข้างกล่อง
#ตัวอย่าง: เส้นรอบวง 10.5 เซนติเมตร หาร 2 ได้ 5.25 เซนติเมตร ซึ่งขนาดที่เหมาะก็จะเป็นไซส์ 52 มิลลิเมตร
เพราะน้องชายของคุณผู้ชายแต่ละคนนั้นมีขนาดแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะต้องเลือกให้เหมาะ ก็เหมือนกับการเลือกเสื้อผ้ารองเท้า เลือกไม่ดีก็ใส่ไม่สบายจริงมั้ยละครับ